(Bangpu) Sailom Gallery

 

cover_Sailom

(Bangpu) Sailom Gallery

ceramic x coffee x bakery

 

 

open hours : 11.00 – 21.30 น.
Address : 55 ถนนสุขุมวิท, ต.ท้ายบ้าน อ.เมือง จ.สมุทรปราการ, 10270

ร้านสายลม บางปู
ลมอะไรไม่รู้ที่หอบเรามาถึงที่นี่
แต่ที่รู้คือที่นี่ลมเย็นดีจัง

 

Sailom-01802

Sailom-01806

 

ในระหว่างที่นั่งรออาหารมาเสิร์ฟ มีลมทะเลพัดมากระทบตัวตลอดเวลา สมกับชื่อร้านจริงๆ
จริงๆที่นี่มีสองส่วน คือส่วนร้านอาหาร (ที่น่าจะเปิดมานานมากๆแล้ว)

Sailom-01804

Sailom-01810

Sailom-01801

Sailom-01811

Sailom-01812
และส่วนของคาเฟ่กึ่งแกลอรี่ที่เปิดใหม่ ซึ่งคือประเด็นหลักที่ทำให้ถ่อมาถึงที่นี่

 

Sailom-01818

Sailom-01819

 

หลงรักการตกแต่งร้านของที่นี่เข้าไปเต็มเปา รายละเอียดกระจุ๊กกระจิ๊ก
ความละเอียดละออแทรกอยู่ในทุกตารางเมตรของร้าน หันไปทางไหนก็น่ารักไปหมด

 

Sailom-01821

สิ่งที่ชอบที่สุด คือลักษณะโครงสร้างของร้านที่เปิดโล่ง
เพื่อรับ”สายลม” จากทะเลที่พัดมาตลอดแทบทั้งวัน
จนแทบจะไม่ต้องใช้เครื่องทำความเย็นอะไรเลย นั่งกินกาแฟรับลมกันสบายๆ

 

Sailom-01845

แถมในร้านก็มีชิ้นงานเซรามิกจากสตูดิโอที่ตั้งอยู่ข้างๆร้าน มาวางขายละลานตาไปหมด
เป็นทั้ง shop ทั้ง gallery เพลินดี

 

Sailom-01822

Sailom-01823

Sailom-01827

Sailom-01829

Sailom-01831

 

เราว่าใครชอบงานเซรามิก น่าจะชอบร้านนี้มากๆ เติมเต็มความฝันสุดๆ
แต่ถ้าไม่มีรถอาจจะมาลำบากนิดนึง แต่ถ้าไม่เกินความสามารถก็มาเหอะ
อาหารอร่อย บรรยากาศดี กาแฟกลมกล่อม
และเพื่อนแอบกระซิบมาว่า เครปกล้วยหอมนูเทลล่าดีงามมาก!

ไปดิรอไร!

 

 

How to go

Sailom-01814

ขับรถตาม map ใน google ไปเลยจ้า
ร้านหาง่ายมาก ตรง map เป๊ะ

google maps : https://goo.gl/maps/3nL3ZLNnws52

 

 

 

(BKK) Jiew Jiew Exhibition

cover_Jiewx2

จิ๋ว จิ๋ว

 

นิทรรศการภาพวาดระบายสีครั้งแรกของมุนิน

(The First Munin’s Colouring Artwork Exhibition)

 

ระยะเวลา : วันที่ 6 สิงหาคม – 3 กันยายน 2560

durations : 6 August to 3 September 2017

เวลา 13.00 – 20.00 น.(หยุดทุกวันจันทร์)

open hours : 13.00 – 20.00 (closed every Monday)

สถานที่ : 10ml.cafe’ gallery (แกลเลอรี่สิบมิล)

Location : 10ml.cafe’ gallery

event page : https://www.facebook.com/events/106772629983189/?active_tab=about

 

 

 

พี่มุนินฺ เป็นนักเขียนการ์ตูนคนโปรดของเราอีกคนนึง ในบรรดานักเขียนการ์ตูนไทย

ลายเส้นของพี่มุอ่อนโยนและเป็นกันเอง เราว่าต้องมีคนเคยอ่านผ่านตามาแน่ๆ

ถ้านึกไม่ออกลองเข้าไปพี่เพจพี่เขาดูได้ https://www.facebook.com/cartoonmunin/

 

จากที่ติดตามผลงานมา สังเกตได้ว่าพี่มุชอบวาดเด็ก และชอบเขียนการ์ตูนเกี่ยวกับเด็ก

จิ๋วจิ๋ว จึงเป็นอีกผลงานนึงที่ใช้เด็กเป็นตัวละครหลักของนิทรรศการ

 

เราว่าเด็กมีพลังพิเศษที่สามารถสร้างรอยยิ้มให้กับคนรอบตัวได้ แต่พอโตขึ้นมาพลังพวกนั้นก็หายไป

ไม่แปลกที่บางทีเราจะคิดถึงช่วงเวลาในวัยเด็ก ที่เรามีความสุขง่ายกว่าตอนนี้

นิทรรศการภาพวาดนี้ เป็นเหมือนไทม์แมชชีน ที่จะพาเราย้อนไปหาตัวเราในวัยเด็ก

ได้ลากเส้นต่อจุด ระบายสีไม้ เหมือนที่เคยทำในสมุดระบายสีที่บางคนอาจจะไม่ได้แตะมาหลายสิบปี

ทำให้นึกได้อีกครั้งว่าความสุขตอนได้ระบายสีเป็นยังไง

ระบายออกนอกเส้นบ้าง แย่งสีกับเพื่อนบ้าง กลายเป็นช่วงเวลาที่สนุกไปเลย

 

 

Jiewx2-8168

 

 

สถานที่จัดงานก็คือ แกลเลอรี่สิบมิล ซึ่งเป็นทั้งคาเฟ่ด้านล่าง

ส่วนด้านบนก็เป็นสถานที่จัด workshop งานศิลปะต่างๆ

จะบอกว่าที่นี่กาแฟอร่อย แถมคาเฟ่เป็นตีมแม่สี (แดง เหลือง น้ำเงิน) น่ารักมากๆ

 

Jiewx2-8178

Jiewx2-8205

Jiewx2-8166

 

ชมแกลเลอรี่เสร็จก็มานั่งชิลเม้ามอยกินกาแฟ กินเค้กต่อได้

เราก็นั่งเล่นไปเกือบสองชั่วโมง บรรยากาศดี เพลินไปเลย

 

 

Jiewx2-8164

 

Munin is one of my fav Thai Illustrator/cartoonist.

Her style is quite unique.  You can recognise her works immediately when you look at one.

If you wanna know her more, please check it out here : Munin

 

Almost characters in her story are children, so she chose them to be a main characters of this exhibition,too.

there are ten children who have their own story.

Munin drew and coloured them and put a short quote to describe their expression.

The best part is, you can take photos with a real things which is same as things in artworks.

 

 

Jiewx2-8143

สิ่งแรกที่จะได้ทำในการชมนิทรรศการคือ เล่นเกมส์เขาวงกต ลากเส้นไปสู่ตัวเลข
ถ้าได้เลขไหนให้บอกพี่สต๊าฟ พี่เขาจะเอากระดาษมาให้เราระบายสีตามเบอร์ที่เราได้

 

Jiewx2-8159

Jiewx2-8167

Jiewx2-8155

พื้นที่ละเลงสี วุ่นวายสุดๆตอนแย่งสีกันระบาย
ระบายไปบ่นไป มือแข็งกันทุกคน 555555

 

Jiewx2-8151

เราสั่งกาแฟมากิน คาราเมล มัคคิอาโต้ / เมนูสิ้นคิดของเราเอง
ร้านไหนทำอร่อยคือติดดาวไว้ได้เลย
ซึ่งติดดาวร้านนี้ไว้ห้าดาวเลยค่า

 

 

 

เข้าสู่โซนแกลเลอรี่กันบ้าง

 

Jiewx2-8175

Jiewx2-8169

Jiewx2-8177

มีประตูจิ๋วสำหรับน้องจิ๋วจิ๋วตัวเล็กตัวน้อย

ต้องยอมใจในการใส่ใจรายละเอียดเล็กๆ ที่สามารถสร้างรอยยิ้มให้กับคนที่มาชมงานได้อย่างง่ายๆเลย

นี่แหละเสน่ห์ของพี่มุนินฺ

 

Jiewx2-8209

Jiewx2-8180

ทุกคนจะได้รับเจ้าจิ๋วตัวเล็กเป็นของตัวเองคนละตัว ให้เราเขียนชื่อแล้วปักลงไป เหมือนเป็นสมุดเยี่ยม

ไอเดียเรื่องสมุดเยี่ยมนี่ก็น่ารักไม่แพ้กัน

จะมีความแออัดประมาณนึง 555555

 

Jiewx2-8203

ลูกเล่นอีกอย่างที่เก๋มากๆคือสมุดการ์ตูนจิ๋ว ที่ไม่สามารถใช้ตาเปล่าอ่านได้

เราต้องพึ่งพาแว่นขยาย ให้ฟีลลิ่งคุณย่าคุณยายมากๆ

 

Jiewx2-8195

Jiewx2-8197

Jiewx2-8198

 

สิ่งของที่แขวนอยู่กับภาพสามารถหยิบเอามาถ่ายรูปเล่นได้ 

แต่เอาออกมาแล้วเก็บเข้าที่ด้วยนะฮะ

 

 

 

HOW TO GO

10ml Cafe and Gallery

รถไฟฟ้าใต้ดินรัชดา ออกทางออก 2 > ต่อรถกะป๊อเข้ามา 7 บาท ลงที่ซอยวิภาวดี 16/6

20287029_1944193572515333_227431263547533515_o

 

 

(Tokyo) Mori Art Museum

cover_mori

(Tokyo) Mori Art Museum

 

 

Address : Roppongi Hills

 

52F :

Tokyo City View

53F :

Mori Art Museum

Mori Art Museum Shop

 

Open hours :

Monday, Wednesday – Sunday

10:00-22:00 (Last Admission: 21:30)

Tuesdays

10:00-17:00 (Last Admission: 16:30)

 

Website : http://www.mori.art.museum/en/index.html

 

Tickets cost :

Tickets to Tokyo City View Observation Deck and Mori Art Museum

Adult  1,800 yen

University / High school student  1,200 yen

Child (Age 4 up to Junior high school student) 600 yen

Senior (Ages 65 & over) 1,500 yen

more ticket informations : http://www.mori.art.museum/en/info/index.html

 

Mori-7283

 

เราว่าสายมิวเซียมต้องรู้จักที่นี่เป็นอย่างดี เพราะนางมีชื่อเสียง และควรค่าแก่การมาเยือนมาก

คุ้มค่าบัตรห้าร้อยกว่าบาทแน่นอน (1800 yen)

บัตรค่าเข้าจะมีหลายแบบนะ ทั้งแบบเข้ามิวเซียมอย่างเดียว

หรือจะเข้าทั้งมิวเซียมและดู Tokyo city view ที่ชั้น 52 ด้วยก็จะอีกราคานึง

ราคาต่างกันไม่เยอะ ด้วยพื้นฐานเป็นคนงกเลยซื้อแบบดูวิวด้วยและเข้ามิวเซียมด้วยไปเลย คุ้มค่า!

อ้อ มี add-ons เพิ่มได้ ถ้าอยากขึ้นไปดูวิวที่ชั้นดาดฟ้าของตึก แบบไม่มีกระจกกั้น ก็เพิ่มเงินอีก 500 yen เท่านั้น

แต่เราไม่ได้ขึ้นไปนะ (อ้าว) คือตอนนั้นไม่ได้สนใจ อยากเข้าแต่มิวเซียม

 

 

Mori-7264

 

Mori-7269

 

ชั้น 52 ที่เป็นชั้นสำหรับดูวิวเมืองโตเกียว ที่มองเห็นได้เกือบ 360 องศา (ถ้าขึ้นไปดาดฟ้าน่าจะเห็นแบบ 360 องศาเลย)

วันไหนถ้าท้องฟ้าเป็นใจ ก็จะเห็นทะลุไปหลายเขตของโตเกียวเลย

เดินเพลินๆ แปปเดียวก็ครบรอบนึงละ แต่เดินให้พอก่อนจะเดินออกมานะ เพราะออกมาแล้วเข้าไปอีกรอบไม่ได้นะเหวย

 

Mori-7275

 

Mori-7268

 

และเป็นปกติของสถานที่ท่องเที่ยว ที่ปลายทางจะถูกดักด้วย shop ขายของที่ระลึก

นี่ก็โดนมาจ้า mt เอย โปสการ์ดเอย ไม่รอด (ก็โดนทุกร้านอะ)

 

Mori-7276

 

Mori-7277

 

 

ขึ้นบันไดเลื่อนมาต่อที่ชั้น 53 ที่เป็นพื้นที่ของมิวเซียมทั้งหมด

แนะนำว่าก่อนไปให้เข้าเว็บไซต์ของมิวเซียม http://www.mori.art.museum/en/index.html

เพื่อเช็คว่าตอนนี้มี exhibition อะไรที่น่าสนใจบ้าง จะได้ไม่ต้องเสียเวลาเลือก

 

Mori-7291

 

ตอนเราไป เราเช็คแล้วว่า main exhibition ของช่วงนั้นคือ N. S. Harsha: Charming Journey

เป็นการแสดงผลงานของศิลปินชาวอินเดีย

ซึ่งผลงานของเขาทุกชิ้นมัน Charming เหมือนชื่อเลย

 

Mori-7292

Mori-7328

 

ใน artwork ทุกๆชิ้นสะท้อนให้เห็นถึงสังคมอินเดียในมุมมองของศิลปิน

ที่บอกเล่าวัฒนธรรม ความเชื่อ การเมืองและความเป็นอยู่ของคนอินเดีย ตั้งแต่เด็กจนโต

ซึ่งทำได้น่าสนใจมากๆ และสนุกมากๆ ผ่านศิลปะแบบ contemporary ที่เขาถนัด

 

Mori-7293

 

Mori-7295

 

Mori-7298

 

เราจะชอบงานเขาลักษณะที่เป็นการทำซ้ำๆ จนกลายเป็น pattern ที่น่าสนใจ

เหมือนกับชีวิตมนุษย์ที่มักทำอะไรซ้ำๆตั้งแต่เกิดจนตาย

 

Mori-7311

 

Mori-7307

exhibition นี้มีหลายห้องมาก แต่ละห้องนำเสนอต่างกัน น่าสนใจคนละแบบ แต่ดีหมดเลย

โดยเฉพาะห้อง Sky Gazers ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากการที่ศิลปินไปนั่งมองดาวบนหลังคากับเด็กๆ ทำให้เกิด artwork เท่ๆนี้ขึ้นมา ซึ่งด้านล่างจะเป็นภาพวาดคนจำนวนมากกำลังแหงนมองอะไรสักอย่างด้านบน

และด้านบนเพดานเป็นกระจกบานใหญ่ ที่สะท้อนเห็นทุกอย่าง

ถ้าช่วงก่อนหน้านี้ใครเข้าไปดู location Mori Art Museum ใน instagram ก็คงเห็นรูปที่เป็นภาพสะท้อนแบบนี้เพียบ

 

 

 

Mori-7329

และชิ้นงานที่เป็นไฮไลท์ และมีขนาดใหญ่ที่สุดจากภาพทั้งหมด น่าจะเป็นชิ้นนี้

เราใช้เวลาอยู่ในมิวเซียมเพื่อดูงานนี้ ประมาณสอง-สามชั่วโมงได้

 

Mori-7330

 

Mori-7331

 

Mori-7332

 

Mori-7334

 

Mori-7335

 

และแน่นอนปลายทางที่ถูกดักตีหัวด้วย shop ของมิวเซียม นี่ตายไปเลย

เหมือนโดนป้ายยา หยิบทั้งสมุดทั้งกระเป๋าผ้ามาจ่ายตังแบบไม่มีสติ เจ็บตัวกันไป

 

 

 

 

Mori-7340

ถัดออกมาจากห้อง exhibition ใหญ่ ก็ยังมีห้องเล็กๆ ที่มีผลงานเล็กๆ ของศิลปินคนอื่นจัดแสดงไว้ด้วย

MAM Project 023: Agatha Gothe-Snape

เป็นผลงานของ Agatha Gothe-Snape ศิลปินชาว Sydney ที่โชว์ผลงานในโปรเจค Oh Window

 

Mori-7341

 

คือเป็นการสร้างหน้าต่างปลอมขึ้นมาในพื้นที่ห้องจัดแสดงงานที่ไม่มีหน้าต่างเลยสักบาน

แต่สร้างเป็นจอทีวีที่ฉายงาน artwork ที่ลักษณะ “คล้าย” กับหน้าต่าง

ด้วยคอนเซปว่า / an edge of two sites of the “art” inside an art museum and the “life” outside /

 

Mori-7344

 

เห็นมะ ที่นี่มีแต่งานเก๋ๆ เจ๋งๆ

สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด ก็ยังดักกันด้วย shop ใหญ่ของมิวเซียม

ขายกันเข้าไปค่ะ ขายให้ตายไปเลย

แล้วถามว่าโดนอีกไหม ตอบเลยว่าไม่! 

ไม่รอด!

ไปเถอะ ที่นี่มันดีจริงๆ

ไปแบบไม่ต้องเสียสติซื้อของเยอะแบบเราก็ได้

ไปดิรอไร

 

 

 

 

Mori-7336

 

HOW TO GO

 

By Train

0-minute walk from Tokyo Metro Hibiya Line “Roppongi Station” Exit 1C

(direct access to Roppongi Hills through concourse)

4-minute walk from Toei Subway Oedo Line “Roppongi Station” Exit 3

5-minute walk from Toei Subway Oedo Line “Azabu-juban Station” Exit 7

8-minute walk from Tokyo Metro Namboku Line “Azabu-juban Station” Exit 4

10-minute walk from Tokyo Metro Chiyoda Line “Nogizaka Station” Exit 5

(Tokyo) essence cafe : flower / cafe / gallery

cover_essencecafe_opt2

(Tokyo) essence cafe

flower / cafe / gallery

 

 

open hours : 8: 00-22: 00

address : Yubinbango150-0011 Shibuya-ku, Tokyo Higashi 3-25-7

EiHajime building 1F / B1F

website : https://essence-cafe.jp/

 

 

essencecafe-7371

essencecafe-7367

 

เป็นร้านคาเฟ่ที่แตกไลน์ออกมาจากร้าน essence 87 เป็นร้านขายดอกไม้ชื่อดังในย่านนี้

ทำให้บรรยากาศของร้านเหมือนนั่งดื่มกาแฟอยู่สวนดอกไม้เล็กๆ ดูสดชื่นขึ้นมาซะงั้น

แต่ในร้านก็ยังมีบริการจัดช่อดอกไม้นะ แบ่งไว้เป็นโซนเล็กๆ ด้านในร้าน

 

essencecafe-7355

essencecafe-7359

essencecafe-7373

 

ร้านมีสองชั้น คือ 1F และ BF (เป็นชั้นใต้ดินด้านล่าง) ซึ่งไฮไลท์อยู่ตรงทางเดินลงชั้นใต้ดินนี่แหละ

ที่ผนังทั้งแถบปกคลุมไปด้วยดอกไม้ น่าเสียดายที่ตรงทางเดินมืดไปหน่อย

แต่สำหรับใครที่มีเลนส์ F ต่ำๆ เราว่าดันแสงได้อยู่นะ น่าไปเมคโปรไฟล์พิคอีกแล้วร้านนี้

 

essencecafe-7366

essencecafe-7364

essencecafe-7365

 

กาแฟที่เราสั่งเป็น float ที่เคลือบด้วยคาราเมลกรอบๆ top ลงบนอเมริกาโน่อีกที (จำชื่อเมนูไม่ได้)

อร่อยมากกกกกก เราชอบมาก กินเพลินๆเคี้ยวกรุบๆ เป็นกาแฟไม่กี่ร้านในญี่ปุ่นที่รู้สึกว่า เออ อร่อย

 

essencecafe-7358

 

ใครที่อยากสัมผัสบรรยากาศจิบกาแฟในสวนกลางเมือง ร้านนี้ก็เป็นอีกตัวเล็กที่ดีเลย

ปล. ที่ร้านที่ปลั๊กให้ชาร์จแบทด้วย

 

#ไปดิรอไร #gothere

 

 

essencecafe-7372

How to go

รถไฟฟ้าใต้ดินสาย Hibiya line สถานี Ebisu ออกประตู 2 จะใกล้ที่สุด

แล้วเดินตาม map ไปได้เลยค่ะ เดินตรงไปเรื่อยๆ แค่แปปเดียวก็เจอแล้ว

google maps

https://goo.gl/maps/K97qmQcXGCs

(Tokyo) Koiwa Shobu en Matsuri

koiwa_cover

(Tokyo) Kkoiwa Shobu en Matsuri

 

Location : koiwa shobu en

Dates : 3 June – 18 June 2017

Admission fee : Free

 

 

koiwa-2271

koiwa-2210

 

หน้าร้อนกับดอกไม้สีสวยน่าจะเป็นของคู่กันแบบแยกไม่ออก

ช่วงนี้ที่ญี่ปุ่นดอกไอริสกำลังบานสะพรั่ง ใครที่ชอบหอบเสื่อหอบผ้าไปปูพื้นปิคนิกขอให้อย่าพลาด

เตรียมม้วนเสื่อกับคว้าตะกร้าปิคนิกรีบไปกันเลย เพราะถ้าช้าดอกไม้ก็ไม่บานรอนะคะซิส

นี่เลยรีบแทรกคิวแอบมาบอกก่อน กลัวจะพลาดกัน

 

koiwa-2223

koiwa-2256

koiwa-2262

 

/

 

Hey guys, Now is SUMMER time in Japan.

There are so many beautiful flowers bloom now, not just a cherry blossom.

it’s time for Iris!

 

like you know, flowers have a very short lifetime. (I mean when it’s blooming)

This Event is on a short period, from 3rd June to 18 June

so if you like to enjoy this thing, HURRY UP!

 

koiwa-2267

koiwa-2275

koiwa-2322

 

ที่งานมีพ่อแม่ลูกชาวญี่ปุ่นมาปูเสื่อปิกนิกกันเต็มพื้นที่ 

ห้องน้ำก็มีอำนวยความสะดวกแบบว่าทั่วถึง ในงานยังมีของกินมาขายเพียบ

ไม่ว่าจะเป็นยากิโซบะในราคาเพียงสองร้อยเยนเท่านั้น 

หรือขนมปังอบเสร็จใหม่ๆหอมกรุ่นก็เริ่มต้นเพียงหนึ่งร้อยเยน 

แต่อากาศแบบนี้แนะนำให้ดื่ม lemonade (ramune) สดชื่นซ่าๆ 

 

koiwa-2336

 

นอกจะได้เก็บภาพบรรยากาศดีดีของต้นดอกไอริสที่กำลังบาน

ข้างๆสวนยังเป็นสนามเบสบอลให้เราไปส่องเด็กหนุ่มญี่ปุ่นกันอีกด้วย

ดูดอกไอริสเสร็จ ก็ต่อด้วยการมาเดินเล่นเลียบแม่น้ำ edo สู้อากาศดีๆกัน

 

koiwa-2458

koiwa-2432

koiwa-2465

koiwa-2468

 

หรือถ้าจะให้ชิลกว่านั้น ก็สะบัดเสื่อปูนอนบนพื้นหญ้ารับลมรับแดดกันก็ได้

เพราะที่ญี่ปุ่นตอนนี้อากาศดีสุดๆ  ถึงแดดจะแรงแต่ลมเย็นมากๆ

รีบไปกันให้ไวก่อนดอกไม้จะโรย เมคโปรไฟล์พิคกันทั้งวันก็ยังได้   

#ไปดิรอไร

 

koiwa-2472

 

 

 

koiwa-2456

 

HOW TO GO

สถานี edogawa สาย keisei line หรือ koiwa สาย chuo-sobu line

ออกประตูทิศใต้ มีรถบัสสาย72 รับส่งถึงงาน(เฉพาะเสาร์และอาทิตย์) รถออกทุกครึ่งชั่วโมง

/

Edogawa Station (Keisei line) or Koiwa Station (Chuo-Sobu line)

go to south exit and take a bus no.72  to the event (just for weekend)

a bus is going to depart from station every 30 mins

 

 

(Tokyo) SIDEWALK STAND

Cover_Sidewalkstand_Opt2

(Tokyo) sidewalk stand

ร้านกาแฟมุมตึกสุดฮิปในย่านนากาเมกุโระ

open hours : everyday / 09.00-21.00 น.

address : 1-23-14 AOBADAI, MEGURO WARD TOKYO 153-0042, JAPAN

website : http://sidewalk.jp

 

 

Sidewalkstand-7450

Sidewalkstand-7454

Sidewalkstand-7459

เป็นร้านชื่อดังของย่านนี้เลยล่ะ เราว่าใครที่เคยไปเดินเล่นที่นากาเมกุโระ น่าจะต้องเคยเห็นร้านนี้

เพราะ location ดีมากๆ อยู่หัวมุมตึกที่ติดถนนเลียบคลอง

ด้วยสไตล์การตกแต่งร้านที่โดดเด่น ทำให้สังเกตเห็นได้ง่ายมากๆ

Sidewalkstand-7486

Sidewalkstand-7477

Sidewalkstand-7480

ร้านนี้จะเน้นการ take away เพราะพื้นที่ของร้านจะไม่กว้างมากตามสไตล์ญี่ปุ่น

ด้านล่างจะมีที่นั่งด้านนอกเล็กๆ แบบ outdoor นั่งได้ประมาณ 2-3 คน

Sidewalkstand-7481

Sidewalkstand-7485

ส่วนที่นั่งด้านบน จุคนได้เต็มที่ก็ประมาณ 10 คน โดยที่ด้านบนจะมีที่นั่งติดหน้าต่างที่ชิลมาก

ด้านหนึ่งจะหันออกถนนฝั่งที่เดินมาจากถนนใหญ่ ส่วนอีกฝั่งจะเป็นด้านที่มองเห็นคลอง

จินตนาการว่าถ้าได้มานั่งจิบกาแฟในช่วงซากุระฟูลบลูมนี่ต้องสวยมากๆ แน่นอน โอ้ยดี

Sidewalkstand-7519

Sidewalkstand-7520

ถ้าใครมากับเพื่อนที่ไม่ดื่มกาแฟ ก็มีเครื่องดื่มอย่างอื่นให้ได้เลือกกิน

เราเลือกดื่ม BITTER ORANGE AMERICANO เพราะเห็นว่าเป็น recommend menu

และแอบเห็นข้อความที่เขียนอธิบายว่าเป็น HOMEMADE ORANGE SYRUP เลยอยากลอง

กาแฟกับส้มนี่ก็เข้ากันได้อย่างน่าประหลาด

Sidewalkstand-7484

ส่วนเพื่อนเราเลือกดื่ม KIMINO YUZU เป็นน้ำส้มยูสุ sparkling ซ่าๆ สวยๆ ใสๆ

Sidewalkstand-7482

เราขึ้นไปนั่งบนชั้นสองด้านริมหน้าต่างฝั่งถนน มองคนเดินไปเดินมา

ช่วงที่ไปอากาศเริ่มร้อนขึ้น เพราะก็ใกล้เข้าสู่หน้าร้อนของญี่ปุ่นแล้ว

คนที่เดินไปเดินมาก็แต่งตัวสีสันสดใสมากขึ้นกว่าปกติ เพลินดี

จริงๆ แนะนำให้ไปช่วงที่ซากุระบาน บรรยากาศจะดีมากไปอีกสิบเท่า

แต่คนอาจจะเยอะหน่อย ต้องมีการตบตีแย่งชิงที่นั่งกันบ้าง

ถ้าได้ไปแถวนากาเมกุโระ ก็อย่าลืมไปแวะร้านนี้นะฮะ

ของเขาดีจริงๆ : )

#ไปดิรอไร

#gothere

 

 

Sidewalkstand-7488

 

HOW TO GO

รถไฟฟ้าสถานี Nakameguro แล้วเดินเลียบคลอง meguro มาเรื่อยๆ ร้านจะอยู่ด้านซ้ายมือ

จริงๆ ออกมาจากสถานีแล้วเปิด map เดินตาม map ได้เลยค่ะ ไม่ไกลจากสถานี

google maps : https://goo.gl/maps/h7zRfW2zX6T2

 

(Tokyo) RACINES Farm to Park | ラシーヌ ファーム トゥー パーク

Racine_cover_opt03

(Tokyo) RACINES Farm to Park

ラシーヌ ファーム トゥー パーク

open hours : 8.00 – 22.00 น.

Address : 南池袋2-21-1 豊島区南池袋公園内

Toshima, Tokyo, Tokyo 171-0022

Facebook : https://www.facebook.com/racines.park/

Racine-7201

Racine-7204

Racine-7208

Racine เป็นร้านอาหารและเครื่องดื่มสำหรับสายชิลอย่างแท้จริง

ด้วยโลเคชั่นที่ดีมากๆ ที่ตั้งอยู่ในสวนสาธารณะเล็กๆ กลางย่านฮอตของคนไทยอย่าง Ikebukuro

ห่างจากสถานี JR แค่ไม่กี่ร้อยเมตร

Racine-7211

Racine-7214

Racine-7215

Racine-7219

พื้นที่สีเขียวของสวนช่วยส่งเสริมบรรยากาศของร้านในน่ารักขึ้นไปอีก

ตัวร้านเองก็ตกแต่งสไตล์ japanese loft ทำให้ดูสบายตาและผ่อนคลาย

Racine-7221

Racine-7222

Racine-7225

Racine-7227

Racine-7220

Racine-7235

ด้านบน ชั้นสองของร้านจะเป็นกึ่งห้องสมุด กึ่งโต๊ะอาหารที่สามารถหยิบหนังสือมาอ่านได้ระหว่างทานกาแฟ

Racine-7231

Racine-7236

Racine-7239

Racine-7238

เราสามารถสั่งเครื่องดื่มและอาหารจากในร้าน แล้วเอามานั่งกินบนพื้นหญ้าหน้าร้านได้

ทั้งคู่รัก กลุ่มเพื่อน และครอบครัว บางคนก็เอาเสื่อมาปู นั่งปิกนิกกันอย่างสนุกสนาน

ยิ่งช่วงเย็นๆ ในวันหยุดที่แดดร่มลมตก พื้นที่สนามหญ้าหน้าร้านจะเต็มไปด้วยผู้คน

Racine-7253

Racine-7255

Racine-7256

Racine-7259

ใครที่ไปเที่ยวญี่ปุ่นแล้วพักอยู่ในย่าน Ikebukuro แนะนำให้พกเสื่อไปปูนอนเล่นสักชั่วโมง-สองชั่วโมง

ให้รู้ว่าเที่ยวญี่ปุ่นก็เที่ยวแบบช้าๆได้นะ นั่งพักจิบเครื่องดื่มสวยๆ บนพื้นหญ้าก็น่าสนใจไม่น้อย

Racine-7242

Racine-7244

Racine-7248

ไปดิรอไร : )

 

Racine-7249

 

 

HOW TO GO

 

สถานี Ikebukuro ทางออก Seibu Exit

ออกมาจากทางออกให้เลี้ยวขวา แล้วข้ามทางม้าลายที่ 2 ที่เจอ

แล้วเดินตรงไปเรื่อยๆ จนกว่าจะเจอสวน minami-ikebukuro park

google maps : https://goo.gl/maps/qg1JPSopGhM2

 

 

(Seoul) Samcheongdong-gil

samcheongdong_cover

(Seoul) Samcheongdong-gil

ถนนสายอาร์ท ที่ต้องหยุดถ่ายรูปทุก 5 ก้าว!

address : Samcheong-dong, Jongno-gu, Seoul, South Korea

google maps : https://goo.gl/maps/u2L3WSVJVNH2

 

vitaminseoul-6882

 

ซัมชองดงเป็นถนนที่มีงานอาร์ทแทรกตัวอยู่ในทุกๆ สิบเมตร

ไม่ว่าจะเป็นกำแพง ตัวอาคาร และเป็นแหล่งชุกชุมของอาร์ทแกลลอรี่

เราสามารถพบเห็นตึกในสมัยโบราณผสมผสานกับตึกสมัยใหม่ได้อย่างลงตัว และเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันไปตลอดทาง

แบบเดินช็อปปิ้งเครื่องสำอางค์เสร็จก็ออกมากินขนมในร้านขนมตึกโบราณถัดไปได้เลย

จากปัจจุบันกลับสู่อดีตในสิบก้าว ผ้าคลุมกาลเวลาก็ทำไม่ได้ ไทม์แมชชีนหรออย่าหวังเลย

vitaminseoul-6861

vitaminseoul-6885

vitaminseoul-6887

นอกจากจะมีร้านอาหาร ร้านขนม ร้านเสื้อผ้า acc น่ารักๆ ก็ยังมีอาร์ทแกลอรี่ และ wall art อยู่ตลอดทาง

ใครแพ้พวก wall art หรือภาพเพ้นท์น่ารักๆ น่าจะรักถนนเส้นนี้

เราหยุดถ่ายรูปทุกห้าก้าว จนเพื่อนมองแรง

เหย ก็มันสวยอะ 555555 รอแปปนึงเนอะ

vitaminseoul-6881

vitaminseoul-6886

ยิ่งถ้าเป็นช่วงใบไม้เปลี่ยนสี ถนนเส้นนี้นอกจากจะน่ารักแล้วยังบวกความโรแมนติกระดับสิบเข้าไปอีก

ลากอปป้ามาเดินสีให้ไฟลุกไปเลยค่ะ

ไปดิรอไร!

#gothere

vitaminseoul-6890

How to go

 

นั่งรถไฟฟ้าไปลงที่ Anguk Station ทางออก 1

เราเดินไปเที่ยวหมู่บ้าน Bukchon Hanok ก่อนแล้วค่อยเดินทะลุออกมาจนเจอถนนซัมชองดง

ส่วนใครอยากตรงดิ่งไปที่ถนนเลย ก็สามารถเดินไปจาก Gyeongbokgung station ทางออก 5

เดินเลียบกำแพงวังไปเรื่อยๆก็จะเจอค่ะ เป็นถนนเส้นยาวๆ

google maps : https://goo.gl/maps/u2L3WSVJVNH2

(Seoul) La Eskimo shop & cafe

coverOPT2_vitaminseoul-7045

(Seoul) La Eskimo shop & cafe

คาเฟ่บรรยากาศอบอุ่น บนถนนสุดชิคอย่างกาโรซูกิล

address : 2F 546-3 Sinsa-dong Gangnam-gu Seoul

google map : https://goo.gl/maps/CwxkcjPv6qR2

vitaminseoul-7036

ต้องบอกตรงๆว่า ร้านนี้คือเดินออกมาจาก shop 3CE ด้วยความหิวโหยแล้วเจอ เหมือนพรหมลิขวิด

ด้วยสายตาอันแหลมคมของเพื่อนผู้เป็นเพื่อนสนิทกับของหวาน นางบอกว่า ร้านนี้แหละ เชื่อกู!

อะๆ ก็ได้ๆ ลองดูก็ไม่เสียหาย เพราะจากที่อยู่เกาหลีมาหลายวัน ก็ยังไม่เจอร้านไหนไม่อร่อยอะ

แต่ปรากฎว่า เฮ้ย มันดีกว่าที่คิดแบบมากๆ สิบเท่า

vitaminseoul-7039

vitaminseoul-7038

french toast ที่นี่โคตรอร่อย ด้วยความฉ่ำของเนยในโทสท์นี่แบบตายไปเลย (อ้วนตายไปเลย)

เสิร์ฟมาพร้อมกับกล้วยอบ และความพีคคือก้อนสีขาวๆ ที่เหมือนเป็นลูกครึ่งระหว่างไอศครีมและวิปครีม

ตักกินพร้อมกันสามอย่างนี่ดีย์มากๆ ยอมแล้วจ้า

เครื่องดื่มที่เราสั่งมาคือ Chocolate macchiato หน้าตาธรรมดา แต่รสชาติดีมาก อร่อยอะ

ส่วนของเพื่อนเราคือ คาราเมลปั่น ดีงามเช่นกัน

vitaminseoul-7036

vitaminseoul-7034

คือต้องอร่อยทุกอย่างเบอร์นี้ไหม งง / ประทับใจตรงที่อร่อยทุกอย่างนี่แหละ

เราอยากให้ได้ไปลองจริงๆ

ลองแล้วช่วยมายืนยันว่ามันอร่อยจริง ไม่ใช่เพราะเราหิว

ไปดิ รอไร

#gothere

vitaminseoul-7044

vitaminseoul-7045

vitaminseoul-7047

vitaminseoul-7041

บรรยากาศในร้านอบอุ่นมาก แม้โดยรวมร้านจะดูมืดๆ ไปซะหน่อย

แต่ถ้ามานั่งตรงโซนข้างหน้าต่างจะกำลังดีเลย แสงกำลังสวยเลย

 

 

vitaminseoul-7042

how to go

นั่ง subway ไปลงที่สถานี Sinsa Station (Line 3) ออกประตู 8

แล้วเดินตรงไปประมาณ 5 นาที จะเจอสี่แยกแรก แล้วเดินต่อมาจนเจอสี่แยกที่สอง

เลี้ยวซ้ายเข้าถนนกาโรซูกิลได้เลย (มันมีป้ายบอกชื่อถนนอยู่ตรงต้นซอยนะคะ)

google map : https://goo.gl/maps/CwxkcjPv6qR2

(Tokyo) SAKURA o’clock

cover_sakura_gothere

SAKURA o’clock

 

อากาศที่เริ่มอุ่นขึ้น มาพร้อมกับสีสันในฤดูใบไม้ผลิ

แน่นอนว่าดอกซากุระสีสวย เป็นนางเอกของฤดูกาลนี้

ในช่วงกลางเดือนมีนาคมไปจนถึงเมษายน เป็น timing ที่ฮอตฮิตในการเที่ยวญี่ปุ่นของคนไทย

หนีร้อนไปพึ่งเย็น อากาศสบายๆ ปูเสื่อจิบชาดูซากุระ เนียนไปกับนิฮงจิน ไม่มีอะไรจะดีไปกว่านี้อีกแล้ว

วันนี้จะมาแนะนำ 3 สถานที่ ที่ควรไปนั่งทอดถอนลมหายใจทิ้ง แล้วนั่งมองซากุระไปด้วย

ไม่มีการเสียดายเวลาแน่นอน

เราพิสูจน์มาด้วยตัวเองแล้ว ว่ามันดีจริงๆ

ไปดิ รอไร!

#gothere

 

 

cover_Inokashira

Inokashira Park

เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ ที่ตั้งอยู่ในเขต Musashino ของโตเกียว

สามารถนั่งรถไฟฟ้าไปลงที่สถานี Kichijōji Station และเดินต่อไปอีกนิดเดียวก็ถึงแล้ว สะดวกมาก

จุดเด่นของที่นี่คือ การปูเสื่อปิคนิค จิบชา กินขนม ชมซากุระไปด้วย ฮานามิระดับสิบ

000013

000015

000016

ทุกพื้นที่ในสวนนี้ จะถูกจับจองจนเต็ม และนิฮงจินทุกคนก็จริงจังกับการพักผ่อนมากๆ

ทั้งนอน ทั้งดื่ม ทั้งเม้ามอยกัน เหมือนอยู่ในห้องนั่งเล่นของบ้านตัวเอง ดูเสริมสร้างความสัมพันธ์ในครอบครัวดี

อ้อ ที่นี่มีทั้งเรือเป็ดให้ได้ถีบเล่น และเรือพายลำเล็กให้พายด้วย

วันที่เราไปอากาศขมุกขมัวพอสมควรเลย ฟ้าเลยจืดเป็นแกงจืด แถมฟิล์มก็บูด

แต่อารมณ์เราไม่บูดนะ เห็นซากุระก็ยิ้มแฉ่งแล้ว

000017

000019

000020

how to go :

Keio Inokashira Line

ถ้าชึ้นจาก Shibuya จะนั่งตรงยาวมาถึง Kichijoji Station เลยค่ะ (190 Yen)

JR Chuo Line / JR Sobu Line / Metro Tozai Line

ถ้านั่งมาจากชินจูกุ ให้นั่ง JR Chuo line ตรงมาที่สถานีคิจิโจจิได้เลยค่ะ (210 Yen)

 

cover_yanaka

 

Yanaka Cemetery

(สุสาน ยานากะ)

ใช่ค่ะ จะพามาดูซากุระที่สุสาน

ไม่มีคนอวดผี ไม่มีอดีตมนุษย์อะไรทั้งนั้น

แต่มีซากุระที่บานสะพรั่งรออยู่

000028

000031

สุสานที่ญี่ปุ่นไม่น่ากลัวเลย สวยมากซะด้วยซ้ำ

ที่นี่เงียบสงบกว่าที่อื่น เพราะเป็นสุสานด้วยและ

คนที่มาชมเลยไม่มีใครส่งเสียงดังรบกวน ให้เกียรติคนที่นอนอยู่เนอะ

000027_color

000030_color

ใครชอบดูซากุระแบบเงียบๆ ไม่ต้องแย่งใคร

แต่สวยไม่แพ้ที่อื่นนะ ที่สำคัญที่นี่มีแมวอ้วนให้จกพุงด้วย!

000020

000021

000022

remark ถนนทางเดินที่นี่ไว้ ว่าถ่ายรูปสวยมาก

มีต้นซากุระบานเต็มสองฝั่ง คนก็ไม่ได้พลุกพล่าน จะถ่ายกี่ล้านรูปก็ได้

เป็นอีกที่ที่ recommend สำหรับใครที่อยากชมซากุระในบรรยากาศสงบๆ

บรรยากาศสงบนะ แต่คนไม่น้อยเท่าไหร่ เพราะทุกคนก็แห่มาชมซากุระกันทั้งนั้น

แต่ด้วยความญี่ปุ่น ทุกคนไม่มีการโหวกเหวกโวยวายอะไร ชมกันเงียบๆ เรียบร้อย น่ารัก

(ปล. ถ้าเทียบปริมาณคนกับที่สวน inokashira ที่ yanaka นี่ถือว่าสงบมากๆ 55555)

000010

how to go :

JR Yamanote Line / JR Keihin-Tohoku Line / Keisei Line

รถไฟฟ้ามาลงที่ Nippori station และเดินจากสถานีไม่ถึง 5 นาที (อยู่ติดสถานีเลยค่ะ)

cover_nakameguro

Naka-Meguro

คลองนากาเมกุโระ บรรยากาศโคตรดี แบบสิบดาว

เป็นสถานที่ชมซากุระที่เราประทับใจที่สุดในทริป

บรรยากาศดีมาก อากาศเย็นๆ มีแดดอ่อนๆ (และเข้มขึ้นตามลำดับ)

000036

000033

000031

000032

ทุกคนที่นี่ดูอารมณ์ดีกันมากๆ แฮปปี้สุดๆ

ซากุระบานทุกปีในช่วงเวลาของมัน แต่ทุกคนก็ยังดูตื่นเต้นกับการมาของมันทุกปี

000030

000038 2

000040

ตรงกลางเป็นคลอง ลืมภาพคลองแสนแสบไปค่ะ เพราะคลองที่นี่น้ำใสเหมือนน้ำประปาบ้านเรา

000039

ส่วนถนนสองฝั่งคลองก็มีร้านเก๋ๆ ชิคๆ น่ารักมากมาย

อย่างว่าแหละตรงนี้มันย่านคนมีเงินนี่เนอะ

คือถ้าเดินดูซากุระจนหิว ก็แวะหาอะไรกินแถวนั้นได้เลย

ของอร่อยเพียบ!

000034

000037

how to go :

นั่งรถไฟฟ้ามาลงที่ Nakameguro Station ออกจากสถานี แล้วเดินต่อออกมานิดเดียวก็จะเจอคลองแล้วค่ะ

จริงๆ ก็เดินตามฝูงชนมาเลยก็ได้ ช่วงซากุระนี่ทุกคนเดินมาทางเดียวกันหมด